QR Code ย่อมาจาก Quick Response ใช้สัญลักษณ์แทนข้อมูลต่าง ๆ มีการตอบสนองที่รวดเร็ว และแม่นยำ หรืออาจจะเรียก qr code ว่า เป็นบาร์โค้ดแบบ 2 มิติ ก็ได้ คือมีทั้งแนวตั้งและแนวนอน ส่วนบาร์โค้ดนั้นจะมีเฉพาะแนวตั้งเพียงอย่างเดียว
ด้วยเหตุนี้ทำให้การบันทึกข้อมูลของ
qr code ทำได้มากกว่าหลายเท่าตัว และสามารถนำมาประยุกต์ใช้ กับระบบชำระเงิน , ฉลากให้ข้อมูลสินค้า, สื่อโฆษณาต่างๆ
เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมมากขึ้น และได้ความสะดวกรวดเร็ว แม่นยำ โดยขั้นตอนการทำงานคือ กรณีเป็น qr code เก็บ
url ของ website
เมื่อนำกล้องของโทรศัพท์มือถือไปถ่าย(หรือ scan)
QR Code ระบบจะอ่าน และแปลงค่าเป็น url ของ website
นำเข้าสู่เว็บไซต์ ได้ทันทีโดยไม่ต้องเสียเวลาพิมพ์
ยิ่งถ้า url ยาวๆ แล้วอาจจะพิมพ์ผิดได้ การใช้ qr code จึงทำให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้อง
และแม่นยำ
การใช้งาน qr code ต้องมีสิ่งใดบ้าง
ใช้ 2 สิ่ง คือ
กล้องถ่ายรูป และโปรแกรม qr code
reader เครื่องโทรศัพท์ในประเทศไทยมีหลายยี่ห้อ
และหลายมาตรฐาน ถ้าเป็นเครื่องรุ่นปัจจุบันจะติดตั้งมาให้เรียบร้อยแล้ว แต่ในเครื่องรุ่นก่อนหน้า อาจไม่รองรับ จะต้องดาวน์โหลด
QR
Code Reader เพิ่มเติม
การใช้ qr code ในธุรกิจ
เนื่องจากข้อดีของ
qr code ทำไว้ให้สะดวกเพราะไม่ต้องพิมพ์
จึงเหมาะกับโทรศัพท์มือถืออย่างมาก และด้วยการเติบโตของจำนวนผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตด้วยมือถือแบบก้าวกระโดด
เราสามารถประยุกต์ใช้ qr code ได้ในหลายรูปแบบ
Qr Code กับ การชำระเงิน (e-payment) การบริจาคเงิน(e-donation)
สะดวกมากในการใช้
qr code ชำระเงินผ่านระบบ internet
banking แค่ใช้โปรแกรม Internet banking บนโทรศัพท์มือถือถ่าย qr-code ของผู้รับเงิน
และใส่จำนวนเงิน ง่ายๆ แค่นี้ก็เรียบร้อย สะดวก และปลอดภัย อยู่ที่ไหนก็ทำได้
โดยส่วนใหญ่ตอนนี้
พวก digital nomad ส่วนใหญ่มักจะเป็น พวกสาย IT ,Design ยังไม่ขยายตัวสู่สายวิชาชีพอื่นๆ มากนัก ถ้ามองในแง่สังคมศาสตร์แล้ว
ไม่แน่ว่าต่อไปถ้ามีชนเผ่าพวกนี้เยอะขึ้นอาจจะเป็นตัวแทนของ การแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม
การเคลื่อนย้ายความรู้ เนื่องจากพวกนี้เป็นนักเดินทาง
มีการเชื่อมโยงและแลกเปลี่ยน
การถ่ายทอดความรู้
John Maeda อดีตอาจารย์จาก MIT และอดีตคณบดีของคณะออกแบบ มหาวิทยาลัย Rhode Island ให้ความเห็นว่า การทำงานทางไกลแบบ Digital Nomad ช่วยปรับเปลี่ยนความคิดสร้างสรรค์
เปิดโอกาสให้มีการทำงานเชิงถ่ายทอดองค์ความรู้
แทนการพึ่งพากำลังแรงงานที่หาได้เฉพาะในพื้นที่เท่านั้น
Nas คืออะไร NAS ย่อมาจาก Network Attached Storage เป็นอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลอัจฉริยะที่เชื่อมต่อกับเครือข่ายที่บ้านหรือสำนักงานของคุณ คุณสามารถจัดเก็บไฟล์ของพนักงานทั้งหมดของคุณบนเครื่อง NAS ตั้งแต่เอกสารสำคัญ ภาพพถ่าย เพลง และวิดีโอ คุณสามารถเข้าถึงไฟล์และใช้บริการต่างๆ ที่เครื่อง NAS มีให้ ผ่านทางอินเทอร์เน็ต โดยการใช้เว็บเบราว์เซอร์หรือแอปมือถือ ถ้าคุณเคยใช้งาน พวก Google Drive , Dropbox Nas ก็ทำงานแบบเดียวกัน และเสมือนว่า คุณเป็นเจ้าของ Google drive หรือ Dropbox เองเลย นอกจากนี้ Nas ยังมีระบบสำรองข้อมูล(Backup) และ NAS ไม่ต้องใช้ PC ,Server ฉะนั้นจึงประหยัดไฟ NAS มีรูปร่างที่หลากหลาย แต่ส่วนใหญ่จะเป็นกล่องสี่เหลี่ยม มีขนาด 1 ใน 4 ของเครื่อง PC ตั้งแต่ลักษณะเหมือนเป็นกล่องเล็กๆ สำหรับใช้งาน 1-5 คน หรือกล่องใหญ่ขึ้นสำหรับใช้งานกันระดับออฟฟิศ 10 – 30 คน และกล่องที่ใหญ่ขึ้นสำหรับงานตัดต่อวิดีโอ, งานประมวลผลระดับองค์กร หรือแม้แต่งานประมวลผลทางด้านวิทยาศาสตร์, การแพทย์ และฟิสิกส์งานใหญ่ๆ ระดับโลกที่เราได้ยินข่าวกันบ่อยๆ ก็ใช้ NAS เช่นกัน
NAS และ Cloud
Nas สามารถ Set ให้เป็น Cloud ได้ ดังนั้นจึงใช้งานนอกสถานที่ผ่าน Notebook ด้วยบราวเซอร์ หรือ ผ่านมือถือ ด้วย App ได้สะดวกมาก
Nas ต่างจาก Server ที่ใช้ PC ทั่วไปอย่างไร
ภายใน
Nas นั้นมี Cpu เหมือนกับ PC แต่ ถูกออกแบบมาใช้เฉพาะงานเก็บข้อมูล และมี Software
ที่เป็นตระกูล Linux ทำให้ไม่ต้องซื้อลิขสิทธิ์โปรแกรม ดังนั้นจึงลดค่าใช้จ่ายได้มาก
ประโยชน์ของ NAS
Nas ใช้เก็บข้อมูล
ได้หลากหลาย สามารถเข้าถึงข้อมูลได้สะดวก
ประหยัดไฟ และค่าใช้จ่าย
เมื่อ ปี 2001 ผมเคยดูหนังเรื่อง AI จักรกลอัจฉริยะ กำกับโดย steven spielberg ตอนนั้นยังเข้าใจว่าเป็นหนังวิทยาศาสตร์เชิงจินตนการ ออกแนวดราม่า และไม่คิดว่า AI ในหนังเรื่องนี้ จะเกิดขึ้นในระยะเวลาเพียงไม่กี่ปี ลองดูสิครับว่า ในหนัง เราเห็นอะไร เราเห็นบ้านพักจะถูกจับจ้องตรวจตราอยู่ตลอดเวลา, ข้อมูลประชากรแบบ Big data , อาหารที่รับประทาน ผ่านกระบวนการทางวิศวพันธุกรรมหลายขั้นตอน, และผู้ที่บริการเสิร์ฟอยู่นั้น ล้วนเป็นหุ่นยนต์ แม้แต่เพื่อนชวนคุย ก็จะมีหุ่นยนต์ตอบสนองทุกความต้องการให้กับเราได้ เรื่อง AI นั้นกว้าง และเริ่มเข้าใกล้เราเร็วกว่าที่คิด ทั้งยังมีเรื่องต้องถกเถียงกันอีกมากครับ เช่นประเด็นที่ว่าถ้าพัฒนา AI ต่อไป เราควรตระหนักถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในเชิงลบหรือไม่ เช่น อีลอน มัสค์ ,บิลล์ เกตส์ และสตีเฟ่น ฮอว์กิ้ง ได้เตือนสังคมโลกไว้ให้ระมัดระวังในการพัฒนา Ai ว่าวันหนึ่งอาจจะถึงขั้นฆ่าล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์ได้ แน่ละ! คนที่คิดตรงข้ามความหวาดระแวง Ai คือ เคนท์ วอล์คเกอร์ รองประธานอาวุโสฝ่ายกิจการทั่วโลกของ google เพราะเขากำลังสนุกในการพัฒนา Ai ของ Google ให้เป็นดับผู้นำแถวหน้าในด้านนี้
Ai นั้นถูกนำมาใช้ในงานแทนมนุษย์หลายอย่าง เช่น Call Center (คอล เซนเตอร์) , Chat Bot (ระบบตอบ Chat ด้วย Ai) เพื่อลดการใช้พนักงาน สามารถทำงานได้ตลอดเวลา และสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า ในอนาคต AI จะสามารถมาแทนการทำงานที่ซับซ้อนของคนได้แน่นอน เช่น การวางแผน การตรวจรักษา การให้คำปรึกษาด้านกฎหมาย ฯลฯ ฉะนั้นการเริ่มเรียนรู้ที่จะปรับตัว ด้วยการเรียนรู้การประยุกต์ใช้ AI ให้เป็นประโยชน์นั้นจะมีความสำคัญมากต่อธุรกิจในอนาคต และทำให้ธุรกิจนั้นมีความได้เปรียบอย่างแน่นอน
ตัวอย่างบางส่วนของ AI ที่คุณอาจใช้อยู่ในทุกๆวัน Artificial intelligence in business management
Applications of AI in business management include:
spam filters
smart email categorisation
voice to text features
smart personal assistants, such as Siri, Cortana and Google Now
automated responders and online customer support
process automation
sales and business forecasting
security surveillance
smart devices that adjust according to behaviour
automated insights, especially for data-driven industries (eg financial services or e-commerce)
Artificial intelligence in e-commerce
AI in e-commerce can be evident in:
smart searches and relevance features
personalisation as a service
product recommendations and purchase predictions
fraud detection and prevention for online transactions
dynamic price optimisation based on machine learning
Artificial intelligence in marketing
Examples of AI in marketing include:
recommendations and content curation
personalisation of news feeds
pattern and image recognition
language recognition – to digest unstructured data from customers and sales prospects
ad targeting and optimised, real-time bidding
data analysis and customer segmentation
social semantics and sentiment analysis
automated web design
predictive customer service
These are only some of the examples of AI uses in business. With the pace of development increasing, there will likely be much more to come in the near future.